HEALTH CHECK UP หน่วยบริการตรวจสุขภาพ ตาม พรบ.โรคจากการประกอบอาชีพ

<div> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <br /></div> </div> <div> <span style="text-align: center;">สวัสดีครับ<b><span style="color: blue;">หน่วยบริการตรวจสุขภาพ</span></b> วันนี้<span style="color: blue;"><b>หมอบี</b></span>จะแนะนำ <span style="color: blue;"><b>พระราชบัญญัติ ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๒</b></span> ครับ ซึ่งต่อไป<b>หมอบี</b>ขอเรียกสั้นๆว่า <span style="color: blue;"><b>พรบ.โรคจากการประกอบอาชีพ</b></span> ละกันนะครับ</span><br /> <span style="text-align: center;"><br /></span> หลายท่านคงมีข้อสงสัยว่า <b><span style="color: blue;">ทำไมจึงต้องมี พรบ.โรคจากการประกอบอาชีพนี้?</span></b> และเมื่อ <span style="color: blue;"><b>พรบ.ฉบับนี้ออกมาแล้วจะมีผลกระทบต่อหน่วยบริการตรวจสุขภาพของท่านอย่างไรบ้าง?</b></span></div> <div> <br /></div> <div> เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขออนุญาตเริ่มกันเลยครับว่า </div> <div> <br /></div> <div> <b><span style="color: blue;">หน่วยบริการตรวจสุขภาพจะดำเนินการตาม พรบ.โรคจากการประกอบอาชีพได้อย่างไร?</span></b></div> <div> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiXoMa_E1BypzmMuWpV0mf9oMmAER8TW8R-QTpsysvNLVgUwxRoYOsPwAVR5QJAUosxxq7rgOvduWw7lFJXA_owoi1tO9MNZfWy_pZDZ27fGx4PWbeVGH0GDXolzPZf8GPtoK4clY7y0WU/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%259A3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="952" data-original-width="1352" height="450" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiXoMa_E1BypzmMuWpV0mf9oMmAER8TW8R-QTpsysvNLVgUwxRoYOsPwAVR5QJAUosxxq7rgOvduWw7lFJXA_owoi1tO9MNZfWy_pZDZ27fGx4PWbeVGH0GDXolzPZf8GPtoK4clY7y0WU/s640/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%259A3.jpg" width="640" /></a></div> <br /></div> <div> <b><span style="color: blue;">1.การขึ้นทะเบียนหน่วยบริการอาชีวเวชกรรม</span></b> การให้บริการตรวจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ตรวจก่อนเข้างาน ตรวจตามปัจจัยเสี่ยง ตรวจประเมินความสมบูรณ์พร้อมในการทำงาน ใน พรบ.ฉบับนี้ กำหนดให้ <b><span style="color: blue;">"นายจ้างต้องเลือกตรวจสุขภาพจากหน่วยบริการอาชีวเวชกรรมที่ขึ้นทะเบียนเท่านั้นครับ"</span></b> ซึ่งจะแตกต่างจากที่ผ่านมา คือ หากไม่ขึ้นทะเบียนหน่วยบริการอาชีวเวชกรรมให้ถูกต้องจะไม่สามารถให้บริการได้ครับ เมื่อถึงเวลาไปนำเสนองานจะช่วยลดคู่แข่งที่ให้บริการด้อยคุณภาพจนไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ครับ ทั้งนี้หากใครให้บริการโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะมีโทษ<b><span style="color: magenta;">จำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท</span></b> เชียวนะครับ</div> <div> <br /></div> <div> <span style="color: blue;"><b>2.การให้บริการอาชีวเวชกรรม</b></span> หลังขึ้นทะเบียนแล้วจะต้องแน่ใจว่าให้บริการได้ตามมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานในงานอาชีวเวชกรรม หากให้บริการด้อยมาตรฐานจะมีโทษ<b><span style="color: magenta;">จำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท</span></b>ครับ </div> <div> <br /></div> <div> <b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>แนะนำให้หน่วยบริการตรวจสุขภาพ ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน <b><span style="color: blue;">ติดตามความคืบหน้าของกฎหมายลูกอย่างใกล้ชิด</span></b> และ<b><span style="color: blue;">ปรึกษาแพทย์อาชีวเวชศาสตร์</span> (เฉพาะแพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติจากแพทยสภาครับ ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ที่เวปของแพทยสภา)</b> เพื่อพัฒนาบริการอาชีวเวชกรรมให้มีคุณภาพตามที่กฎหมายกำหนดจะได้ทำงานออกตรวจสุขภาพได้อย่างสบายใจครับ </div> <div> <br /></div> <div> ในเบื้องต้นการให้บริการน่าจะเน้น </div> <div> <b><span style="color: blue;">2.1รายการตรวจสุขภาพ</span></b> ควร<b><span style="color: blue;">ออกแบบโดยแพทย์อาชีวเวชศาสตร์</span></b></div> <div> <b><span style="color: blue;">2.2การตรวจพิเศษทางอาชีวอนามัย</span></b> เช่น สมรรถภาพการมองเห็น สมรรถภาพการได้ยิน และสมรรถภาพปอด ควรได้มาตรฐานวิชาชีพ โดยควบคุมทั้ง <b><span style="color: blue;">บุคลากร เทคนิคการตรวจ และอุปกรณ์เครื่องมือ</span></b> ให้ได้มาตรฐานครับ</div> <div> <b><span style="color: blue;">2.3การตรวจทางห้องปฏิบัติการ</span></b> เช่น สารเคมีในสิ่งคัดหลั่ง เม็ดเลือด การทำงานของตับและไต ควรได้มาตรฐานทางห้องปฏิบัติการขั้นต่ำที่เรียกว่า <b><span style="color: blue;">Lab Accreditation (LA) หรือมาตรฐานที่สูงกว่า เช่น ISO </span></b>สำหรับทุกรายการที่ออกให้บริการตรวจ</div> <div> <b><span style="color: blue;">2.4การตรวจร่างกายโดยแพทย์</span></b> นอกจากให้คำแนะนำใน<span style="color: blue;"><b>การรักษาผลที่ผิดปกติ</b></span>แล้ว ต้องพิจารณาว่า</div> <div> <br /> <ul> <li><span style="color: blue;"><b>2.4.1อาจผิดปกติโดยมีสาเหตุจากการทำงานหรือไม่</b></span> จะดำเนินการวินิจฉัยโรคต่ออย่างไร</li> <li><span style="color: blue;"><b>2.4.2ความผิดปกติจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานหรือไม่</b></span> แก้ไขได้อย่างไร</li> <li><b><span style="color: blue;">2.4.3การทำงานจะทำให้ความผิดปกติที่พบแย่ลงได้อีกหรือไม่</span></b> ควบคุมป้องกันได้อย่างไร</li> </ul> </div> <div> <br /></div> <div> <b><span style="color: blue;">3.ผลตรวจสุขภาพผิดปกติที่อาจเกิดจากการประกอบอาชีพ</span></b> เมื่อพบลูกจ้างมีความผิดปกติที่อาจเกิดจากการประกอบอาชีพ (มีเหตุอันควรสงสัย เช่น ลักษณะผลผิดปกติเฉพาะ) <b>เมื่อก่อนหน่วยบริการตรวจสุขภาพต้องแจ้งนายจ้าง ให้นายจ้างแจ้งลูกจ้างภายใน 3 วัน แต่<span style="color: blue;">ตาม พรบ.ฉบับนี้หน่วยบริการสุขภาพต้องแจ้งเจ้าพนักงานด้วย</span></b> <span style="color: magenta;"><b>"หากหน่วยบริการตรวจสุขภาพไม่รายงานให้ถูกต้องจะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท"</b></span> จะเห็นว่า <b>"หน่วยบริการตรวจสุขภาพต้องศึกษาเกี่ยวกับความผิดปกติที่ต้องรายงานเจ้าพนักงานให้ดี เช่นเดียวกับนายจ้าง"</b> จะออกหน่วยตรวจสุขภาพตรวจเสร็จคืนผลให้กับลูกจ้าง แล้วรอส่งสรุปให้นายจ้างเป็นอันจบเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้ ถ้าเจอผลผิดปกติแล้วไม่รายงานเจ้าพนักงานอาจต้องเสียค่าปรับครับ </div> <div> <br /></div> <div> <b><span style="color: blue;">4.การรายงานผลตรวจสุขภาพให้เจ้าพนักงาน</span></b> เรื่องนี้ถูกระบุไว้ในมาตรา 29 <span style="color: blue;"><b>หมอบี</b></span>คาดว่าจะระบุรายละเอียดการรายงานเพิ่มเติมให้ <b><span style="color: blue;">"แม้ไม่พบความผิดปกติที่เกิดจากการประกอบอาชีพก็ต้องรายงาน และรายงานข้อมูลดิบทั้งหมดในรูปแบบอิเลคโทรนิคไฟล์"</span></b> ทั้งนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวครับ</div> <div> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEishExbsKHmkS9c6YFTyt3HBZgCQAo5ZYS3AhAcqzAzYVUpzpsvmeknTeF5T93tr2Iw3k65H5at07Q9NWFyKfg9o1QzvId8TOS1buFCl_uQqp-RnOQK4E31EPG-USE1XsH-qcvZenZZP_c/s1600/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%259A9.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1600" data-original-width="1473" height="640" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEishExbsKHmkS9c6YFTyt3HBZgCQAo5ZYS3AhAcqzAzYVUpzpsvmeknTeF5T93tr2Iw3k65H5at07Q9NWFyKfg9o1QzvId8TOS1buFCl_uQqp-RnOQK4E31EPG-USE1XsH-qcvZenZZP_c/s640/%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%259A9.png" width="588" /></a></div> <br /></div> <div> <b>ข้อเสนอแนะจากความเห็นส่วนตัวของ<span style="color: blue;">หมอบี</span></b> คือ <b><span style="color: blue;">"หน่วยบริการตรวจสุขภาพควรเตรียมตัวขึ้นทะเบียนหน่วยบริการอาชีวเวชกรรม พัฒนาการให้บริการให้ได้มาตรฐาน และหาแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ช่วยพิจารณาว่าเป็นความผิดปกติที่อาจเกิดจากการประกอบอาชีพที่ต้องรายงานหรือไม่ และรายงานผลให้พนักงานเจ้าหน้าที่อย่างครบถ้วนถูกต้องครับ"</span></b></div> <div> <br /></div> <div> สำหรับผลกระทบเบื้องต้นของ<b><span style="color: blue;"> พรบ.โรคจากการประกอบอาชีพ</span></b>ฉบับนี้ ที่มีต่อ<b><span style="color: blue;">หน่วยบริการตรวจสุขภาพ</span></b> หมอบีขอให้ข้อสังเกตว่า นอกจาก <b>พรบ.จะช่วยให้ลูกจ้างได้รับบริการตรวจสุขภาพที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังช่วยให้ได้ความร่วมมือใน<span style="color: blue;">การรายงานผลตรวจสุขภาพ และความผิดปกติที่พบ จากหน่วยบริการตรวจสุขภาพ เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวังโรค</span>จากการประกอบอาชีพ การควบคุม และป้องกันโรค สำหรับลูกจ้าง</b> ซึ่งเป็นอีกเหตุผลส่วนหนึ่งครับว่าทำไมต้องมี พรบ.โรคจากการประกอบอาชีพฉบับนี้ครับ</div>

HEALTH CHECK UP หน่วยบริการตรวจสุขภาพ ตาม พรบ.โรคจากการประกอบอาชีพ

สวัสดีครับ หน่วยบริการตรวจสุขภาพ วันนี้ หมอบี จะแนะนำ พระราชบัญญัติ ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๒ ครับ ซึ่...

ABNORMAL การเตรียมรับมือผลตรวจสุขภาพผิดปกติ

<div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">สวัสดีครับวันนี้ </span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"> จะมาแนะนำ </span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><span style="color: blue;"><b>ผู้เข้ารับ</b></span></span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">การตรวจสุขภาพ </span>ไม่ว่าจะเป็นการตรวจ</b><b>ตามปัจจัยเสี่ยงจากการทำงาน</b></span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: bold; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"> </span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: bold; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;">การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทํางาน</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: bold; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"> </span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: bold; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;">การตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความพร้อมในการทำงาน</span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"> รวมทั้ง</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b>การตรวจสุขภาพทั่วไป</b><span style="color: blue;"> </span>เกี่ยวกับ<b style="color: blue;"> </b><b><span style="color: orange;">ผลตรวจสุขภาพที่ผิดปกติ </span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">ครับ</span></div> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"><br /></span></div> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">เชื่อว่าทุกท่านคงเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพมาแล้วไม่ว่าจะเป็นการ</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><span style="color: blue;"><b>เข้ารับการตรวจเอง</b></span></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">การที่</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">มีบุคคลใกล้ชิดเข้ารับการตรวจ </span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">และหากเป็น </span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">บุคลากรทางการแพทย์</span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">ก็อาจมีประสบการณ์ในฐานะ </span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">ผู้ให้บริการตรวจสุขภาพในงานอาชีวอนามัย</span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"> บทความนี้น่าจะมีประโยชน์กับทุกท่านให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมตามแต่ละสถานการณ์ครับ</span></div> <br /> <span id="docs-internal-guid-400fe532-7fff-eb92-01ac-196508ef30d0">การตรวจสุขภาพนั้นมีโอกาสที่จะพบ <b><span style="color: orange;">ผลตรวจสุขภาพที่ผิดปกติ</span></b> บ่อยครั้งที่เข้ารับการตรวจพบผลที่ผิดปกติก็จะเกิดความกังวลใจ บุคคลใกล้ชิดของผู้เข้ารับการตรวจก็มีความกังวลใจเช่นเดียวกัน หรือแม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการ ก็อาจไม่แน่ใจว่า <b><span style="color: blue;">จะดำเนินการเช่นไรจึงจะครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่กฎหมายและเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการทางการแพทย์</span></b></span> <br /> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <br /> ทั้งนี้หากมีความสงสัยว่ารายการตรวจสุขภาพที่ผู้ให้บริการจัดให้มีความเหมาะสมหรือไม่ แนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก <a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_2.html" style="color: blue; font-weight: bold;">ตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงให้ได้ประโยชน์</a><b style="color: blue;"> </b>และ<b style="color: blue;"> </b><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_16.html" style="color: blue; font-weight: bold;">การออกแบบรายการตรวจสุขภาพ</a><b style="color: blue;"> </b>และ <a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/biomarker.html" style="color: blue; font-weight: bold;">การเลือกตรวจสารเคมีในร่างกาย</a><br /> <br /></div> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt; text-align: center;"> <div style="text-align: left;"> <span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">เมื่อพบ</span><span style="color: orange;">ผลตรวจสุขภาพที่ผิดปกติ</span><span style="color: blue;">แล้วมีสิ่งใดที่เราควรคำนึงถึงบ้าง?</span></b></span></div> </div> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiXDvSlkChQcKwkFrLirGd6JQRMwsHeEuywWHX3u2D54t3cPpssNaoiVXlPrbjl9TyCS5yH8o6GxxxrF_xP_s1X7gomEJZQFpJ1UWVw3GNwOtNhMZ4DNjOi04aAoR8owCPXMfGggL96TF4/s1600/4+steps.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="815" data-original-width="1082" height="482" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiXDvSlkChQcKwkFrLirGd6JQRMwsHeEuywWHX3u2D54t3cPpssNaoiVXlPrbjl9TyCS5yH8o6GxxxrF_xP_s1X7gomEJZQFpJ1UWVw3GNwOtNhMZ4DNjOi04aAoR8owCPXMfGggL96TF4/s640/4+steps.png" width="640" /></a></div> <br /></div> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">1. อย่างแรกที่ควรนึกถึงคือความผิดปกติดังกล่าวมี</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><span style="color: blue;"><b>ความจำเป็นที่ต้องเข้ารับการรักษา</b></span></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">หรือไม่ ดังนั้นเมื่อพบความผิดปกติจึงควร</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">ปรึกษาแพทย์ทันที</span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">ว่าความผิดปกติดังกล่าว</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">จำเป็นต้องรับการรักษาและเฝ้าระวังติดตามอาการอย่างไร</span></b></span><br /> <span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;"><br /></span></b></span> <br /> <div style="text-align: center;"> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">และควร</span><span style="background-color: transparent; color: blue; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"><b>ปรึกษานายจ้าง</b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">ว่า </span><span style="background-color: transparent; color: blue; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"><b>รายการตรวจดังกล่าวเป็นรายการตรวจตามปัจจัยเสี่ยงใช่หรือไม่</b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"> </span></div> <div style="text-align: center;"> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"><br /></span></div> <span style="font-family: "arial"; font-size: 14.6667px; white-space: pre-wrap;">ในกรณีที่รายการตรวจนั้นเป็น<b><span style="color: blue;">รายการตรวจตามปัจจัยเสี่ยง</span></b></span><span style="font-family: "arial"; font-size: 11pt; white-space: pre-wrap;">หากแพทย์แนะนำว่ามีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา <b><span style="color: blue;">ผู้เข้ารับการตรวจที่มีสถานะเป็นลูกจ้างสามารถร้องขอให้นายจ้างส่งเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมได้</span></b> เนื่องจาก <b><span style="color: orange;">กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างและส่งผลการตรวจแก่พนักงานตรวจแรงงานพ.ศ 2547 ข้อ 9</span></b> ระบุว่าในกรณีที่พบความผิดปกติของลูกจ้าง <b>ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างได้รับการรักษาพยาบาลทันที และค้นหาสาเหตุของความผิดปกตินั้นว่าเกิดจากการทำงานหรือไม่เพื่อดำเนินการป้องกัน</b></span><br /> <span style="font-family: "arial"; font-size: 11pt; white-space: pre-wrap;"><b><br /></b></span></div> <b style="font-weight: normal;"><br /></b> <br /> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">2. นอกจากความจำเป็นที่ต้องเข้ารับการรักษาแล้ว ผู้เข้ารับการตรวจและบุคคลใกล้ชิด ควรตระหนักว่า </span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">ความผิดปกติที่พบจากการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงอาจเกิดจากสาเหตุในการทำงาน</span> </b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">ได้</span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b>ควรปรึกษาแพทย์ผู้ตรวจขอความเห็นเบื้องต้นว่าผลตรวจสุขภาพดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากการทำงานได้หรือไม่</b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">เพื่อจะได้</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">แจ้งให้กับนายจ้างดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุและดำเนินการป้องกัน</span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">ต่อไป </span><br /> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"><br /></span> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"><span style="color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; vertical-align: baseline;">ซึ่งเป็นสิ่งที่กำหนดอยู่ในกฎหมายข้อเดียวกันกับข้างต้น </span><span style="font-family: "times new roman"; font-size: small; white-space: normal;">เช่น </span><b style="font-family: "Times New Roman"; font-size: medium; white-space: normal;">การตรวจสมรรถภาพการได้ยินพบความผิดปกติตามที่กฎหมายกำหนด</b><span style="font-family: "times new roman"; font-size: small; white-space: normal;"> นายจ้างจะต้องส่งตรวจซ้ำ เพื่อยืนยันความผิดปกติภายใน 30 วัน และสอบสวนว่าเกิดจากการทำงานหรือไม่ แนะนำให้อ่านเกี่ยวกับการสูญเสียการได้ยินจากการทำงานสัมผัสเสียงดังได้ที่ </span><b style="font-family: "Times New Roman"; font-size: medium; white-space: normal;"><span style="color: blue;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/08/nihl.html">หูพังจากเสียงดัง</a></span></b><span style="font-family: "times new roman"; font-size: small; white-space: normal;"> ครับ</span></span><br /> <br /></div> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">นายจ้าง</span>สามารถดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุของผลสุขภาพที่ผิดปกติได้</b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">โดย</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">ปรึกษาคลินิกโรคจากการทำงานประจำจังหวัด </span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">หรือในพื้นที่ หรือ</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><span style="color: blue;"><b style="color: blue;">ปรึกษาแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ </b>ทั้งนี้สามารถค้นหาคลินิกโรคจากการทำงานในพื้นที่ของท่านได้ที่<b style="color: blue;"> <a href="https://www.sso.go.th/wpr/main/service/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99_detail_detail_1_126_0/243_243">รายชื่อคลินิกโรคจากการทำงาน</a></b></span></span></div> <br /> บ่อยครั้งที่<b><span style="color: blue;">นายจ้างละเลยในการดำเนินการ</span>สอบสวนหาสาเหตุ</b>ดังกล่าว หรือ <b>ไม่ส่งลูกจ้างเข้ารับการรักษา </b>อาจทำให้ลูกจ้างหรือสหภาพแรงงานนำไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง เช่น <span style="color: blue; font-weight: bold;"><a href="https://www.labour.go.th/th/index.php?option=com_wrapper&view=wrapper&Itemid=155">สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน</a> <a href="https://www.sso.go.th/wpr/main">กองทุนเงินทดแทน</a> ศูนย์ดำรงธรรม </span>หรือ<span style="color: blue; font-weight: bold;"> ศาลแรงงาน </span>ในพื้นที่ครับ<br /> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhgJCXwlkO85eTJPC8ju2FORroYN0TEAjlOKaZ_SpU2DnaNSfKHn2XFbcL260dGPJNmWVComdPTgGPEe95DikK0qyRGuDHAOWO_MJCZQp1FkOZ6W2xTX6E89MDTJuSeMnDMt1ViqB4BvkQ/s1600/Labour.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="327" data-original-width="971" height="214" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhgJCXwlkO85eTJPC8ju2FORroYN0TEAjlOKaZ_SpU2DnaNSfKHn2XFbcL260dGPJNmWVComdPTgGPEe95DikK0qyRGuDHAOWO_MJCZQp1FkOZ6W2xTX6E89MDTJuSeMnDMt1ViqB4BvkQ/s640/Labour.png" width="640" /></a></div> <br /> นอกจากนี้เมื่อนายจ้างพบว่า<span style="color: blue;"><b>ผลตรวจที่ผิดปกติดังกล่าวเกิดจากการทำงานกับสารเคมีอันตราย</b></span> นายจ้างยังมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะ<b><span style="color: blue;">ตรวจวัดสารเคมีในสภาพแวดล้อมการทำงาน</span></b> และทำการ<span style="color: blue;"><b>วิเคราะห์ความเข้มข้น ภายใน 30 วัน </b></span>และ<b><span style="color: blue;">พิจารณามาตรการป้องกันเพิ่มเติม</span></b>ตาม <b>ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีตรวจวัด และการวิเคราะห์ผลการตรวจตรวจวัดระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2559</b> ด้วยครับ<br /> <br /> <span style="font-family: "arial"; font-size: 11pt; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">ในทางปฏิบัติ</span></b>เมื่อพบความผิดปกติจากการตรวจตามปัจจัยเสี่ยง<b> <span style="color: blue;">หมอบี</span>แนะนำให้<span style="color: blue;">ปรึกษาแพทย์พิจารณา<span style="color: blue;">ตรวจยืนยันซ้ำว่าความผิดปกติดังกล่าวเป็นของจริง</span></span> เนื่องจากความผิดปกติหลายอย่างที่พบจากการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงที่เป็นเพียงการตรวจคัดกรองอาจเป็นแบบชั่วคราว ไม่มีความสำคัญทางคลินิก และอาจหายไปได้เองเมื่อทำการตรวจวินิจฉัยยืนยัน </b>เช่น การตรวจสมรรถภาพการได้ยินในมาตรการอนุรักษ์การได้ยิน<b> <span style="color: blue;">การตรวจยืนยันความผิดปกติดังกล่าวสามารถใช้สิทธิประกันสังคมในการตรวจได้</span> หลังจากยืนยันความผิดปกติแล้วค่อยพิจารณาว่า <span style="color: blue;">เกิดจากการทำงานหรือไม่</span> เมื่อได้ข้อสรุปสาเหตุของความผิดปกติแล้วจึงพิจารณา <span style="color: blue;">ส่งรับการรักษาตามสิทธิอย่างเหมาะสม</span> โดย <span style="color: blue;">หากเกิดจากการทำงานสามารถใช้สิทธิกองทุนเงินทดแทนได้</span> พร้อมกันนั้นให้แจ้ง <span style="color: blue;">นายจ้างดำเนินการป้องกันสาเหตุ ปรับเปลี่ยนงานให้เหมาะสม สรุปผลการดำเนินการและรายงาน </span>ให้สวัสดิการและคุ้มครอ</b></span><br /> <span style="font-family: "arial"; font-size: 11pt; white-space: pre-wrap;"><b>งแรงงานผ่านรายงาน <span style="color: blue;">จผส.1</span> ในแต่ละครั้งที่ทำการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง</b></span><br /> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjZyT-ZvS2hNfSpvEUjXngT18-F5rL7ggyI96l1YWrw6sra205OfljI5EVvH7cpaB_2fDT2jP91ymWP7K63HY6PpNXcQPTYjGZIoRluDetNtgDamk1MzO5bomp-zni94T123FmXt1td55c/s1600/SSO.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="500" data-original-width="863" height="370" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjZyT-ZvS2hNfSpvEUjXngT18-F5rL7ggyI96l1YWrw6sra205OfljI5EVvH7cpaB_2fDT2jP91ymWP7K63HY6PpNXcQPTYjGZIoRluDetNtgDamk1MzO5bomp-zni94T123FmXt1td55c/s640/SSO.png" width="640" /></a></div> <br /> แนะนำให้ศึกษาสิทธิประโยชน์ประกันสังคมกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายได้ที่ <b><span style="color: blue;"><a href="https://www.sso.go.th/wpr/main/service/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1_detail_detail_1_125_690/13_13">ประกันสังคม</a></span></b> และควรศึกษา <b><span style="color: blue;">สิทธิประโยชน์กองทุนเงินทดแทน</span></b>เพิ่มเติม เกี่ยวกับ 1.การรักษาพยาบาล 2.ค่าทดแทนกรณีไม่สามารถทำงานได้ สูญเสียสมรรถภาพ สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต 3.การส่งตัวลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาล 4.วิธีการแจ้งเหตุประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ได้ที่ <b><span style="color: blue;"><a href="https://www.sso.go.th/wpr/main/privilege/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99_category_list-text-photo_1_126_0">กองทุนเงินทดแทน</a></span></b> ครับ<br /> <br /> 3. นอกจากนี้ผู้เข้ารับการตรวจและบุคคลใกล้ชิด อาจตั้งข้อสงสัยว่า<b><span style="color: blue;">ลักษณะการทำงานที่นายจ้างมอบหมายให้แม้จะไม่ได้เป็นสาเหตุในการเกิดโรคดังกล่าวแต่อาจมีผลทำให้ผลสุขภาพที่ผิดปกตินั้นแย่ลงได้หากทำงานที่มีความเสี่ยงบางอย่าง</span></b> เช่น พนักงานที่มีผลตรวจสุขภาพการทำงานของตับผิดปกติหากไป<b>ทำงานกับสารเคมีอันตรายย่อมมีโอกาสที่จะทำให้ตับซึ่งเป็นอวัยวะที่ใช้ขจัดทำลายสารพิษทำงานหนักจนเสื่อมสภาพ</b>เป็นโรคตับที่รุนแรงได้ง่ายขึ้นแม้จะได้รับการรักษากับแพทย์เฉพาะทางอย่างถูกต้องจึงควร<b><span style="color: blue;">ปรึกษาแพทย์เพื่อรับใบรับรองแพทย์ไปมอบให้นายจ้างเพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนงาน</span></b><br /> <b><br /></b> แนะนำให้อ่าน <b><span style="color: blue;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2018/07/2.html">การทำงานของตับ</a></span></b> เพิ่มเติมครับ<br /> <br /> 4. อีกเรื่องหนึ่งที่ควรนึกถึงคือ<b><span style="color: blue;">ผลตรวจสุขภาพที่ผิดปกตินั้นอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน</span></b>หรือไม่หากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์แนะนำใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าผลตรวจสุขภาพนั้นอาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานบางอย่างที่นายจ้างได้มอบหมายแล้ว<b>นำใบรับรองแพทย์นั้นไปมอบให้นายจ้างเพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนงานให้เหมาะสม</b>ต่อไปเช่นกัน  ทั้งนี้การประเมินว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำงานหรือไม่เป็นบทบาทที่<b>กฎหมายฉบับเดียวกันกับข้างต้น กำหนดไว้ในข้อ 5 ให้แพทย์ที่ออกตรวจสุขภาพให้ความเห็นดังกล่าว </b>โดยเฉพาะ<b><span style="color: blue;">งานที่มีความเสี่ยงสูงทั้งต่อตัวพนักงานเองและบุคคลรอบข้าง</span></b>ควรพิจารณาข้อนี้เป็นพิเศษครับ เช่น งานในที่อับอากาศ งานบนที่สูง งานขับรถขนส่งสารเคมีอันตราย งานขับรถโดยสารสาธารณะ งานบนแท่นขุดเจาะน้ำมัน งานบนเรือเดินทะเล หรือแม้แต่ งานที่ทำกับอาหารหรือส่วนประกอบอาหาร<br /> <br /> แนะนำให้อ่าน <b><span style="color: blue;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/fitness.html">Fitness ของพนักงานขับรถ</a></span></b> และ <b><span style="color: blue;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2017/11/working-at-height.html">ตรวจสุขภาพอย่างไรปลอดภัยบนที่สูง</a></span></b> และ <b><span style="color: blue;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_3.html">การตรวจสุขภาพคนเดินเรือ</a></span></b> เพิ่มเติมครับ<br /> <br /> นอกจากนี้ <b>แม้ว่าการตั้งครรภ์จะไม่ใช่ผลตรวจสุขภาพที่ผิดปกติ </b>แต่ก็เป็น<b> <span style="color: blue;">ภาวะสุขภาพที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานบางอย่าง</span></b> และ <b><span style="color: blue;">การทำงานบางอย่างอาจทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดอย่าง</span>ผิดปกติ</b>ได้ ไม่ว่าจะเป็นกา่รคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักทารกแรกเกิดน้อย หรือทารกพิการโดยกำเนิด หญิงตั้งครรภ์สามารถขอให้แพทย์ออกใบรับรองแนะนำให้ปรับเปลี่ยนงานหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆได้เช่นกันครับ แนะนำให้อ่าน <span style="color: blue;"><b><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_93.html">การดูแลพนักงานหญิงที่ตั้งครรภ์</a></b></span> เพิ่มเติมครับ<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">เมื่อนายจ้างได้รับใบรับรองแพทย์</span>ที่ระบุอุปสรรคในการทำงาน หรือความเสี่ยงที่การทำงานอาจทำให้สุขภาพของลูกจ้างแย่ลงจากลูกจ้าง</b> <b><span style="color: blue;">เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย</span>ที่นายจ้างต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนงานให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพของลูกจ้างแต่ละราย</b> โดย<span style="color: blue;"><b>นายจ้างอาจจัดทีมสหสาขาวิชาชีพ</b></span>อันประกอบไปด้วย <b>นายจ้าง ฝ่ายบุคคล หัวหน้างาน เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย และ แพทย์อาชีวเวชศาสตร์ ตลอดจนสหภาพแรงงานร่วมกันกับลูกจ้าง</b> ช่วยกันพิจารณาหางานที่เหมาะสมต่อไป<br /> <br /> ในบางกรณีที่ลูกจ้างไม่สามารถทำงานใดๆได้เลย ควรพิจารณาศึกษา <b><span style="color: blue;"><a href="https://www.sso.go.th/wpr/main/service/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1_detail_detail_1_125_696/236_236">สิทธิประโยชน์ประกันสังคมกรณีว่างงาน</a></span></b> และ <b><span style="color: blue;"><a href="https://www.sso.go.th/wpr/main/service/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99_detail_detail_1_126_0/38_38">สิทธิประโยชน์กองทุนเงินทดแทนกรณีไม่สามารถทำงานได้</a></span></b> เพิ่มเติมครับ<br /> <br /> <span style="font-weight: normal;"></span> จะเห็นว่าทั้ง 4 ประเด็นข้างต้นเป็น<b>ประเด็นสำหรับการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงจากการทำงานตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด</b>ให้ตรวจเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากเป็น <b><span style="color: blue;">รายการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานและการตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความพร้อมในการทำงาน</span></b> อาจพิจารณาประเด็นหลักคือ ความผิดปกติอาจเป็นอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ และอาจต้องเข้ารับการรักษาเพื่อแก้ไขความผิดปกติอย่างไรให้ทำงานได้ และประเด็นที่ผลตรวจสุขภาพผิดปกติอาจแย่ลงได้หากทำงานที่มีความเสี่ยงบางอย่าง<br /> <br /> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">สำหรับ</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">รายการตรวจสุขภาพทั่วไป</span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"> </span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b>จัดเป็นสวัสดิการเพิ่มเติมที่นายจ้างจัดให้แก่ลูกจ้าง เมื่อพบความผิดปกติไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนโรคหาสาเหตุ และนายจ้างสามารถให้ลูกจ้างไปรับการรักษาได้เองตามสิทธิ์การรักษาที่มีอยู่</b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"> ซึ่งแตกต่างจาก</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">รายการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง</span>ที่กฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างได้รับการรักษาทันที</b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;"> ดังนั้น</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b style="color: blue;">การพิจารณาว่ารายการตรวจสุขภาพดังกล่าวเป็นรายการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงหรือรายการตรวจสุขภาพทั่วไปนั้นจึงมีความสำคัญที่ต้องแยกจากกันให้ชัดเจน </b>แต่ทั้งนี้ </span><br /> <span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><br /></b></span> <br /> <div style="text-align: center;"> <span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b>ลูกจ้างสามารถขอให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์เพื่อขอปรับเปลี่ยนงานจาก</b><b style="color: blue;">ผลตรวจรายการตรวจสุขภาพทั่วไปที่ผิดปกติ</b><b>ได้เช่นกัน</b></span></div> </div> <b style="font-weight: normal;"><br /></b> <br /> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">รายการตรวจสุขภาพบางรายการ</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">อาจเป็นรายการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงสำหรับพนักงานบางคน</span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">และ</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">เป็นรายการตรวจสุขภาพทั่วไปสำหรับพนักงานอีกกลุ่มหนึ่ง</span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">ได้ เช่น </span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b>การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด</b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">จะเป็น</span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b>รายการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงของผู้ที่ทำงานสัมผัสสารเคมีบางอย่าง เช่น เบนซีนตะกั่ว ปรอท สารกัมมันตภาพรังสี และยาปราบศัตรูพืช ที่ต้องตรวจเป็นประจำทุกปี </b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">แต่จะถูกจัดให้</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b>เป็นรายการตรวจสุขภาพทั่วไปสำหรับผู้ที่ทำงานที่ไม่ได้มีการสัมผัสสารเคมี ที่อาจเป็นอันตรายต่อเม็ดเลือดและไขกระดูก ที่อาจตรวจเพียงครั้งเดียวตลอดระยะเวลาที่เข้าทำงาน ลูกจ้างจึงควรปรึกษานายจ้างเมื่อพบความผิดปกติว่า<span style="color: blue;">เป็นรายการตรวจตามปัจจัยเสี่ยงหรือไม่ </span>เพื่อรับสิทธิประโยชน์ในการรักษาและหาสาเหตุของโรคที่เพิ่มขึ้น</b></span><br /> <span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><br /></b></span> <span style="font-family: "arial";"><span style="font-size: 14.6667px; white-space: pre-wrap;">แนะนำให้อ่านเนื้อหาเกี่ยวกับ <b><span style="color: blue;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2018/07/3.html">การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด</a></span></b> เพิ่มเติมครับ</span></span></div> <b style="font-weight: normal;"><br /></b> <br /> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="font-family: "arial";"><span style="font-size: 14.6667px; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: orange;">ผลตรวจสุขภาพที่ผิดปกติ</span> </b>นอกจากผลตรวจเลือด ปัสสาวะ เอกซเรย์ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ สมรรถภาพหู ตา ปอด<b> </b>แล้วยังรวมถึง<b> <span style="color: blue;">การซักประวัติโดยแพทย์พบอาการผิดปกติ</span> </b>เช่น อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังในผู้ที่ทำงานยกของหนัก ก้มหลังและบิดเอี้ยวลำตัวบ่อยครั้ง<b> </b>หรือ <b><span style="color: blue;">การตรวจร่างกายโดยแพทย์พบความผิดปกติ</span> </b>เช่น ผื่นผิวหนังอักเสบในผู้ที่ทำงานสัมผัสสารเคมีที่มีฤทธิ์ระคายเคือง</span></span></div> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <br /> แนะนำให้อ่านเกี่ยวกับการปวดหลังจากการทำงานเพิ่มเติมได้ที่ <span style="color: blue;"><b><a href="http://www.doctor-bee.net/2017/10/10-causes-of-back-pain-10.html">10 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง</a></b></span> และ <b><span style="color: blue;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_74.html">ปวดหลังจากการทำงาน VS กองทุนเงินทดแทน</a></span></b> ครับ<br /> <br /></div> <div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhqePJCo2sQSJY3bw99XKhv-6-5ImUQ75qq4Niof9AhqWC-wlz74tTIwy1_A-tTRGmVzT_TfynzTh5Vv3mkgp7XLvwuEAQ3IwGnbPEP0Ow9Ix0YdVEXtrdZfFM2V7tORe_xI0d1enY6dx4/s1600/Bad-hands-hairdresser.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="480" data-original-width="640" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhqePJCo2sQSJY3bw99XKhv-6-5ImUQ75qq4Niof9AhqWC-wlz74tTIwy1_A-tTRGmVzT_TfynzTh5Vv3mkgp7XLvwuEAQ3IwGnbPEP0Ow9Ix0YdVEXtrdZfFM2V7tORe_xI0d1enY6dx4/s320/Bad-hands-hairdresser.jpg" width="320" /></a></div> <br /> <span style="font-weight: normal;"></span><br /> <div style="text-align: center;"> <div style="text-align: center;"> ภาพผื่นผิวหนังอักเสบที่แพทย์อาจตรวจพบความผิดปกติจากการตรวจร่างกาย จาก www.occderm.asn.au</div> </div> <span style="color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; vertical-align: baseline; white-space: pre;"><br /></span> <br /> <div style="text-align: left;"> <span style="font-family: "arial"; font-size: 11pt; vertical-align: baseline;"><b><span style="color: blue;">การออกแบบรายการตรวจสุขภาพ </span></b>ทั้งรายการตรวจตามปัจจัยเสี่ยง รายการตรวจสุขภาพก่อนเข้างาน รายการตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความสมบูรณ์พร้อมในการทำงาน เป็น</span><span style="font-family: "arial"; font-size: 11pt; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post.html">บทบาทของแพทย์อาชีวเวชศาสตร์</a></span></b></span><span style="color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; vertical-align: baseline;">ที่ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติจาก</span><span style="font-family: "arial"; font-size: 11pt; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">แพทยสภา</span></b></span><span style="color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; vertical-align: baseline;"> สำหรับรายการตรวจสุขภาพทั่วไป อาจพิจารณาได้จากคู่มือรายการตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับประชาชน รายการตรวจสุขภาพที่สำนักงานประกันสังคมจัดให้เป็นสวัสดิการเพิ่มเติมสำหรับผู้ประกันตน </span></div> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <div style="text-align: left;"> <br /> ทำความรู้จักแพทย์อาชีวเวชศาสตร์เพิ่มเติมได้ที่ <b><span style="color: blue;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post.html">แพทย์อาชีวเวชศาสตร์ </a></span></b>ครับ</div> </div> <div dir="ltr" style="line-height: 1.38; margin-bottom: 0pt; margin-top: 0pt;"> <span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><span style="font-size: 14.6667px; white-space: normal;"><br /></span></span> <span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><span style="font-size: 14.6667px; white-space: normal;">นอกจากออกแบบรายการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงแล้ว<b>แพทย์อาชีวเวชศาสตร์เป็นผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์และแปลผลการตรวจสุขภาพทั้ง<span style="color: blue;">รายบุคคล</span>และ<span style="color: blue;">ภาพรวมรายกลุ่ม</span></b>ด้วยนะครับ แนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่  <span style="color: blue; font-weight: bold;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_22.html">วิเคราะห์และแปลผลตรวจสุขภาพ</a> </span>และ<span style="color: blue; font-weight: bold;"> <a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_21.html">การเลือกโครงการสุขภาพให้เหมาะสมกับพนักงาน</a></span></span></span><br /> <span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;"><br /></span></b></span> <span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">หวังว่า ทุกท่านจะ</span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b>มีความมั่นใจในการเตรียมรับมือผลตรวจสุขภาพที่ผิดปกติ</b></span><span style="background-color: transparent; color: black; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre;">จากกรณีต่างๆ และ</span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b><span style="color: blue;">ได้รับประโยชน์จากการตรวจสุขภาพอย่างเต็มที่</span></b></span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><b>ให้คุ้มกับที่<span style="color: blue;"> เสียเงิน เสียเวลา เสียเลือด</span></b></span><span style="background-color: transparent; font-family: "arial"; font-size: 11pt; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; text-decoration: none; vertical-align: baseline; white-space: pre-wrap;"><span style="color: blue;"> </span></span>ในแต่ละครั้งที่เข้ารับการตรวจ<br /> <br /> สุดท้ายนี้ <b><span style="color: blue;">หมอบี </span></b>ขอแนะนำประชาสัมพันธ์งานประชุมวิชาการของ <b><span style="color: blue;">สมาพันธ์อาชีวอนามัยและความปลอดภัยแห่งประเทศไทย </span></b>การประชุมวิชาการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยแห่งประเทศไทย 2019 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ <b>14-15 สิงหาคม 2562</b> ครับ <b><span style="color: blue;">ตอนนี้ที่พักใกล้เต็มแล้ว</span></b> อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ <a href="https://www.tcoh2019.com/"><b>https://www.tcoh2019.com</b></a> สำหรับวันนี้สวัสดีครับ</div>

กิจกรรมของหมอบี, ตรวจสุขภาพพนักงาน, โรคจากการทำงาน

ABNORMAL การเตรียมรับมือผลตรวจสุขภาพผิดปกติ

สวัสดีครับวันนี้ หมอบี จะมาแนะนำ ผู้เข้ารับ การตรวจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจ ตามปัจจัยเสี่ยงจากการทำงาน การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทํางาน การ...

พารามิเตอร์การตรวจสุขภาพน่ารู้ 3 ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด

สวัสดีครับ <b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>เชื่อว่าหลายท่านน่าจะเคย<b>ตรวจสุขภาพประจำปี</b>และมี<b><span style="color: blue;">การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด</span></b>ร่วมด้วย วันนี้เราจะมาคุยกันว่า ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดนั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง แปลผลอย่างไร และเมื่อผลผิดปกติควรดำเนินการเช่นไรต่อครับ<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count, CBC)</span></b> เป็นการตรวจนับเม็ดเลือดแต่ละชนิดด้วยเครื่องตรวจของห้องปฏิบัติการ เป็นการตรวจพื้นฐานอย่างหนึ่งทางการแพทย์ สามารถใช้ตรวจหาการติดเชื้อได้ แต่ไม่สามารถระบุชนิดของเชื้อโรคที่พบได้ชัดเจน ในงานอาชีวอนามัยสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้ง<br /> <br /> <span style="color: blue;"><b>1.ประเมินความสมบูรณ์พร้อมของร่างกาย</b></span> เช่น กรณีเข้าทำงานในที่อับอากาศ การทำงานบนที่สูง พนักงานขับรถ<br /> <br /> อ่านรายละเอียดการทำงานบนที่สูงได้ที่ <b><a href="http://www.doctor-bee.net/2017/11/working-at-height.html">Working At Height ตรวจสุขภาพอย่างไรทำงานปลอดภัยบนที่สูง</a></b><br /> <br /> อ่านรายละเอียดการทำงานขับรถได้ที่ <b><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/fitness.html">Fitness ของพนักงานขับรถ</a></b><br /> <br /> <b><span style="color: blue;">2.ตรวจตามปัจจัยเสี่ยงเพื่อเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน</span></b> โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากการสัมผัสสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อระบบเลือด เช่น สารเบนซีนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สารตะกั่วในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">3.ตรวจเพื่อเป็นสวัสดิการให้พนักงาน</span></b> แม้ไม่สัมผัสปัจจัยเสี่ยง โดยกรมการแพทย์แนะนำให้ตรวจเพียงครั้งเดียวตลอดอายุงาน แต่สถานประกอบการหลายแห่งนิยมตรวจให้พนักงานทุกคนทุกปี<br /> <div> <br /></div> <h2 style="text-align: center;"> <b><span style="color: blue;">การใช้ประโยชน์จากผลตรวจสุขภาพที่แตกต่างกัน ย่อมต้องมีเกณฑ์การแปลผลที่แตกต่างกันจริงมั้ยครับ?</span></b></h2> <br /> ก่อนอื่นเราคงต้องมาทำความเข้าใจผลตรวจของการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดก่อนครับ โดย<b><span style="color: blue;">เม็ดเลือดแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม</span></b>ได้แก่ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">1.เม็ดเลือดแดง</span></b> เป็นตัวนำอากาศ หรือออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะทั่วร่างกาย หากเม็ดเลือดแดงน้อย ร่างกายย่อมอ่อนแรง อ่อนเพลีย<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">2.เม็ดเลือดขาว</span></b> เป็นภูมิคุ้มกันโรคของร่างกาย หากมีการติดเชื้อ หรือโรคบางอย่าง เช่นมะเร็งเม็ดเลือดจะมีค่าที่สูงขึ้นกว่าปกติ ทั้งนี้เม็ดเลือดขาวยังแบ่งย่อยได้หลายชนิด เช่น Lymphocyte, Monocyte, Basophil, Eosinophil ซึ่งมีความจำเพาะต่อแต่ละโรคที่ต่างกัน<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">3.เกล็ดเลือด</span></b> ช่วยให้เลือดหยุดได้เร็ว หากมีค่าน้อยกว่าปกติอาจทำให้เกิดจ้ำเลือดได้ตามร่างกาย และอวัยวะภายใน แม้ไม่ประสบอุบัติเหตุใด อาจน้อยได้จากการติดเชื้อบางอย่าง เช่นไข้เลือดออก<br /> <br /> <h2 style="text-align: center;"> <b><span style="color: blue;">จะเห็นว่าแต่ละกลุ่มจะมีความจำเพาะต่อโรคแต่ละโรคที่แตกต่างกัน ไม่ควรสรุปแบบเหมารวมด้วยคำว่า ปกติ หรือผิดปกติ</span></b></h2> <br /> <b><span style="color: blue;">การประเมินความสมบูรณ์พร้อมในการทำงาน</span></b>ต้อง<b>พิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้</b> เช่นการทำงานในที่อับอากาศต้องมี<b>เม็ดเลือดแดง Hemoglobin, Hb และ Hematocrit, Hct รวมทั้งเกล็ดเลือด</b>ตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งค่าที่กำหนดนั้นแตกต่างจากค่ามาตรฐานทางห้องปฏิบัติการ เนื่องจาก<b>ค่ามาตรฐานทางห้องปฏิบัติการ</b>เป็นค่าที่คนส่วนใหญ่ที่ไม่เป็นโรคจะอยู่ในเกณฑ์ แต่<span style="color: blue;"><b>ค่าเกณฑ์กำหนดสำหรับประเมินความสมบูรณ์พร้อมในการทำงาน</b></span>จะคัดคนที่สุขภาพดีจริงเข้าทำงานที่มีความเสี่ยงสูง<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">การตรวจตามปัจจัยเสี่ยงสัมผัสสารเบนซีนในการทำงาน</span></b> ตามแนวทางของ <a href="https://www.osha.gov/pls/oshaweb/owadisp.show_document?p_table=STANDARDS&p_id=10045">OSHA 1910.1028 App C</a> แนะนำให้ติดตามพารามิเตอร์จากการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดบางรายการเป็นพิเศษ เช่น<br /> <br /> 1.เม็ดเลือดขาวรวม White Blood Cell, WBC 4200 - 10200 ในคนที่ไม่สูบบุหรี่และสูงกว่านี้ในกรณีที่สูบบุหรี่<br /> 2.เม็ดเลือดขาว Monocyte 2.0-8.0%<br /> 3.การลดลงของเม็ดเลือดขาวแต่ละพารามิเตอร์จะมีความสำคัญ จึงต้องเปรียบเทียบผลตรวจกับข้อมูลพื้นฐานทางสุขภาพเดิมของพนักงานแต่ละราย<br /> 4.อื่นๆ ควรศึกษาเพิ่มเติมจาก <a href="https://www.osha.gov/pls/oshaweb/owadisp.show_document?p_table=STANDARDS&p_id=10045">OSHA 1910.1028 App C</a> ตามลิงก์นะครับ<br /> <br /> นอกจากนี้ OSHA ยังแนะนำให้<b><span style="color: blue;">ตรวจ Peripheral Blood Smear</span></b> ควบคู่ไปกับการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดด้วยในบางกรณี<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">Peripheral Blood Smear, PBS</span></b> เป็นการนำหยดเลือดมาไถลงสไลด์แล้ว<b>ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์</b>เพื่อหาเซลล์ที่ผิดปกติ ตัวอย่างเซลล์ที่ผิดปกติที่อาจพบได้จากการตรวจ PBS ได้แก่ Pelger-Huet Anomaly<br /> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5-CjCDmGKVHEoWGyp7Q3s4wAH-LOdK2_JvHnHbeFHdZygsNTP9Hi6cC1iiNHnz38Gn2dxqi-tQPn-_BTPIDe036TIN-fDBzfeq311WT1JVN_u1xrGjg_zI7uLQrWw1QrQKcsnOn8cZNA/s1600/pelger.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="720" data-original-width="960" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5-CjCDmGKVHEoWGyp7Q3s4wAH-LOdK2_JvHnHbeFHdZygsNTP9Hi6cC1iiNHnz38Gn2dxqi-tQPn-_BTPIDe036TIN-fDBzfeq311WT1JVN_u1xrGjg_zI7uLQrWw1QrQKcsnOn8cZNA/s640/pelger.jpg" width="640" /></a></div> <div style="text-align: center;"> ภาพเม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติ พบได้จากการตรวจ PBS อ้างอิงจาก <a href="https://imagebank.hematology.org/image/17390/pseudo-pelgerhut-anomaly">https://imagebank.hematology.org/image/17390/pseudo-pelgerhut-anomaly</a></div> <br /> จะเห็นได้ว่า<b>รายการตรวจ CBC เป็นรายการตรวจที่มีหลายพารามิเตอร์</b> แสดงผลได้กว้าง ควร<b><span style="color: blue;">เลือกเกณฑ์การแปล วิเคราะห์ผลให้สอดคล้องกับโรคที่ต้องการเฝ้าระวัง</span></b> กรณีที่ผลตรวจผิดปกติควรให้แพทย์อาชีวเวชศาสตร์ตรวจหาอาการและอาการแสดงของโรคระบบเลือด และพิจารณาตรวจซ้ำ ตรวจเพิ่มเติม และส่งพบแพทย์เฉพาะทาง อายุรแพทย์โรคระบบเลือดเพื่อการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อนะครับ<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">กรณีเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน</span></b> เช่นงานสัมผัสสารเบนซีน ตะกั่ว ให่้ส่งพบแพทย์อาชีวเวชศาสตร์วินิจฉัยว่า<b><span style="color: blue;">ความผิดปกติที่พบนั้นเกิดจากการทำงานหรือไม่</span></b>ด้วยครับ<br /> <br /> และเมื่อผลผิดปกติแล้วควรให้แพทย์อาชีวเวชศาสตร์พิจารณาว่า<b><span style="color: blue;">ภาวะสุขภาพนั้นส่งผลกระทบต่อการทำงานอย่างไร</span></b> จำเป็นต้อง<b><span style="color: blue;">ปรับเปลี่ยนงานให้เหมาะสมกับสุขภาพอย่างไร</span></b>ด้วยครับ<br /> <br /> แนะนำุให้อ่านบทความ <b><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_2.html">ตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงให้ได้ประโยชน์</a></b> ครับ

ตรวจสุขภาพพนักงาน, โรคจากการทำงาน

พารามิเตอร์การตรวจสุขภาพน่ารู้ 3 ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด

สวัสดีครับ หมอบี เชื่อว่าหลายท่านน่าจะเคย ตรวจสุขภาพประจำปี และมี การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ร่วมด้วย วันนี้เราจะมาคุยกันว่า ความสมบูรณ์...

พารามิเตอร์การตรวจสุขภาพน่ารู้ 2 การทำงานของตับ

สวัสดีครับ จากครั้งก่อน<b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>แนะนำเกี่ยวกับ<b>การตรวจการทำงานของไตจากการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง</b> วันนี้หมอบีจะมาชวนคุยต่อเกี่ยวกับอีกพารามิเตอร์รายการตรวจที่นิยมตรวจประจำปีกันครับ ได้แก่<b><span style="color: blue;">การตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Tests, LFTs)</span></b> หรือ<b><span style="color: blue;">การตรวจเอนไซม์ตับ (Enzymes Test)</span></b> นั่นเอง<br /> <br /> กลับไปอ่านรายละเอียด <b><span style="color: blue;">การตรวจการทำงานของไต</span></b>ได้ที่นี่ครับ <a href="http://www.doctor-bee.net/2018/07/1.html">http://www.doctor-bee.net/2018/07/1.html</a><br /> <br /> การตรวจการทำงานของตับนั้น ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องจะเป็นการตรวจเอนไซม์ของตับ ซึ่งหากตับทำงานได้ปกติดีจะผลิตเอนไซม์ดังกล่าวออกมาในระดับที่ปกติ แต่หากมีความผิดปกติของโรคตับจะมีการผลิตเอนไซม์มากกว่าปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของโรคตับที่เป็นครับ ซึ่งหากแบ่งให้ถูกต้องแล้ว<br /> <br /> <h2 style="text-align: center;"> <span style="color: blue;"><b>LFTs จะประกอบด้วย การตรวจเอนไซม์ของตับ (Enzymes Test) และการตรวจการทำงานของตับ (Test of Liver Function)</b></span></h2> <br /> <b><span style="color: blue;">การตรวจเอนไซม์ของตับ (Enzymes Test)</span></b> นิยมนำมาใช้ในการตรวจเฝ้าระวังโรคตับในงานอาชีวอนามัยบ้านเรามานาน ที่นิยมทำการตรวจได้แก่<br /> <br /> 1.Alanine Aminotransferase, ALT หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Serum Glutamic-Pyruvic Transaminase, SGPT<br /> 2.Aspartate Aminotransferase, AST หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Serum Oxalo-Acetic Transaminase, SGOT<br /> 3.Alkaline Phosphatase, ALP<br /> 4.Gamma Glutamyl Transpeptidase, GGT<br /> <br /> สำหรับ<b><span style="color: blue;">การตรวจการทำงานของตับ (Test of Liver Function)</span></b> ไม่ค่อยใช้ในการตรวจคัดกรองในงานอาชีวอนามัยนัก แต่บางสถานประกอบการอาจตรวจบางรายการ เช่น Serum Albumin, Prothombin Time,PT Serum Bilirubin<br /> <br /> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEib_HrhTIKkhxIaBGwzw7ELBrg8KNOXpwkda5T3KKDYbl3GzMaqpnGbcmyFPCLr71CR9FOS_iwdzpl3SYjk7TqIE42LtHbnwmc9OttOqm5sRiswyzbKPlLNOX06SrRs8GFcAuLyT1sP53E/s1600/maxresdefault.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="720" data-original-width="1280" height="360" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEib_HrhTIKkhxIaBGwzw7ELBrg8KNOXpwkda5T3KKDYbl3GzMaqpnGbcmyFPCLr71CR9FOS_iwdzpl3SYjk7TqIE42LtHbnwmc9OttOqm5sRiswyzbKPlLNOX06SrRs8GFcAuLyT1sP53E/s640/maxresdefault.jpg" width="640" /></a></div> <div style="text-align: center;"> รายละเอียดของ LFTs </div> <div style="text-align: center;"> <a href="https://www.youtube.com/watch?v=64duFJsSepI">https://www.youtube.com/watch?v=64duFJsSepI</a></div> <br /> สถานประกอบการส่วนใหญ่<b><span style="color: blue;">นิยมตรวจ ALT หรือ SGPT ควบคู่ไปกับ AST หรือ SGOT</span></b> หลายสถานประกอบการ<b>อาจตรวจ ALP ควบคู่</b>ไปด้วย นอกจากนี้<b>บางแห่งอาจมีการตรวจ GGT</b> และ Test of Liver Function ร่วมด้วย โดยหากพบความผิดปกติคือมีค่าสูงกว่าค่ามาตรฐานทางห้องปฏิบัติการควรพิจารณาดำเนินการต่อ<br /> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgnnfx3r43K_wYcbAot1LXyYXqxS5iYuMfXL5eIFuwZqEssirA6rgCNarhyAjqCeAUOo-B3ROCTM55PERj7NDHas32kox4Kckb0SLja0AhMqP4Y0COFQID58bUmsKJWuRajbX_cf6Z5iG4/s1600/LFTs.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="216" data-original-width="618" height="220" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgnnfx3r43K_wYcbAot1LXyYXqxS5iYuMfXL5eIFuwZqEssirA6rgCNarhyAjqCeAUOo-B3ROCTM55PERj7NDHas32kox4Kckb0SLja0AhMqP4Y0COFQID58bUmsKJWuRajbX_cf6Z5iG4/s640/LFTs.png" width="640" /></a></div> <br /> <b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>แนะนำให้แบ่งกลุ่ม LFTs สำหรับผลตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจตามปัจจัยเสี่ยงแต่ละรายการอย่างง่าย ดังนี้ครับ<br /> <br /> <span style="color: blue;"><b>1.ปกติ คือไม่เกินค่ามาตรฐานทางห้องปฏิบัติการ</b></span><br /> <br /> <b><span style="color: blue;">2.สูงเล็กน้อย คือสูงกว่าค่ามาตรฐานแต่ไม่เกิน 2 เท่า </span></b>ควรพบแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ หรือแพทย์ทั่วไปซักประวัติตรวจร่างกายหาความผิดปกติของโรคตับ หากพบความผิดปกติควรพิจารณาส่งพบอายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารตรวจวินิจฉัยและรักษา และพิจารณาทบทวนการสัมผัสสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อตับในสถานที่ทำงาน<br /> <br /> <span style="color: blue;"><b>3.สูงปานกลาง คือ>= 2 เท่าของค่ามาตรฐานแต่ไม่เกิน 5 เท่า</b></span> ตรวจการทำงานของตับซ้ำภายใน 2-8 สัปดาห์ (2 สัปดาห์สำหรับ AST และ ALT, 4 สัปดาห์สำหรับ ALP, 8 สัปดาห์สำหรับ GGT ร่วมกับพบแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ หรือแพทย์ทั่วไปซักประวัติตรวจร่างกายหาความผิดปกติของโรคตับ หากพบความผิดปกติ หรือผลตรวจการทำงานของตับซ้ำผิดปกติควรพิจารณาส่งพบอายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารตรวจวินิจฉัยและรักษา และพิจารณาทบทวนการสัมผัสสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อตับในสถานที่ทำงาน<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">4.สูงมาก คือ>= 5 เท่าของค่ามาตรฐาน</span></b> ส่งพบอายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารตรวจวินิจฉัยและรักษา<span style="color: red;"><b>ทันที</b></span> และพิจารณาทบทวนการสัมผัสสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อตับในสถานที่ทำงาน<br /> <br /> ทั้งนี้<b><span style="color: blue;">ผลตรวจ LFTs แต่ละรายการจะแสดงถึงโรคตับต่างชนิดกัน</span></b> ได้แก่ <b>โรคตับอักเสบ โรคมะเร็งตับ โรคมะเร็งท่อน้ำดีตับ โรคตับแข็ง</b> ซึ่งแพทย์จะมีแนวทางการตรวจเพิ่มเติมวินิจฉัยโรคต่อไปครับ<br /> <br /> ในเบื้องต้นอาจ<b><span style="color: blue;">แบ่งโรคตับออกเป็นสามกลุ่ม โดยอาศัยค่าสัดส่วนของ ALT หารด้วยค่าสัดส่วนของ ALP</span></b> เพื่อพิจารณาว่าเป็น<b>โรคตับกลุ่ม Parenchymatous Disease</b> หรือ<b>กลุ่ม Cholestatic Liver Disease</b> หรือ<b>กลุ่มผสม Mixed</b> ซึ่งมีแนวทางการตรวจวินิจฉัยแยกโรคที่แตกต่างกัน<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>แนะนำว่า<br /> <br /> <h2 style="text-align: center;"> <b><span style="color: blue;">การตรวจ LFTs นั้นควรมีความชัดเจนว่าตรวจตามปัจจัยเสี่ยง หรือตรวจประจำปีเพื่อเป็นสวัสดิการให้พนักงาน</span></b></h2> <br /> <b><span style="color: blue;">1.กรณีตรวจตามปัจจัยเสี่ยง</span></b> ตามกฎหมาย<b>ต้องสรุปว่าที่ผิดปกตินั้นเกิดจากการทำงานหรือไม่</b> ควรส่งพบแพทย์เฉพาะทางวินิจฉัยรักษา และประเมินว่ามีผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">2.กรณีตรวจประจำปีเพื่อเป็นสวัสดิการ</span></b> เมื่อผิดปกติควรส่งพบแพทย์เฉพาะทางวินิจฉัยรักษา และประเมินว่ามีผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่<br /> <br /> นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว บ่อยครั้งที่<b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>พบว่า <b><span style="color: blue;">พนักงานบางรายอาจมีค่า LFTs สูงเรื้อรัง</span></b> โดยเมื่อเทียบกับผลตรวจย้อนหลัง หลายๆปีพบว่ามีค่าที่สูงตลอดเวลา ไม่มีอาการและอาการแสดงของโรคตับจากการซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์ กรณีนี้หากเคยพบแพทย์เฉพาะทางแล้วตรวจไม่พบโรค อาจไม่ต้องส่งพบแพทย์เฉพาะทางทุกปีแต่ให้เฝ้าระวังอาการโรคตับ และปฏิบัติตัวตามที่แพทย์เฉพาะทางแนะนำกก็เพียงพอครับ

ตรวจสุขภาพพนักงาน, โรคจากการทำงาน

พารามิเตอร์การตรวจสุขภาพน่ารู้ 2 การทำงานของตับ

สวัสดีครับ จากครั้งก่อน หมอบี แนะนำเกี่ยวกับ การตรวจการทำงานของไตจากการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง วันนี้หมอบีจะมาชวนคุยต่อเกี่ยวกับอีกพารามิ...

พารามิเตอร์การตรวจสุขภาพน่ารู้ 1 การทำงานของไต

สวัสดีครับ วันนี้<b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>จะมาแนะนำรายการตรวจสุขภาพประจำปียอดนิยมที่เชื่อว่าเกือบทุกคนจะเคยตรวจรายการนี้มาแล้ว ได้แก่<span style="color: blue;"><b>การตรวจการทำงานของไต</b></span>ครับ<br /> <br /> การทำงานของไต สามารถตรวจได้จากเลือดโดยดูจาก<b><span style="color: blue;">ค่าครีอะตีนีน Creatinine (Cr)</span></b> และ<span style="color: blue;"><b>ค่ายูเรียไนโตรเจน Blood Urea Nitrogen (BUN) </b></span>โดยจะมีค่าปกติของทางห้องแลปแนบมาให้<br /> <br /> <b>ค่าครีอะตีนีน </b>เกิดจากการใช้พลังงานของกล้ามเนื้อ ร่างกายผลิตอยู่ตลอดเวลาและขับออกทางไต หากไตมีปัญหาไม่สามารถขับออกได้จะทำให้เกิด<b>การคั่งของสารครีอะตีนีนขึ้นในเลือด</b>ได้ครับ เนื่องจากในผู้ชายมีกล้ามเนื้อมากกว่าจึงมีการสร้างครีอะตีนีนมากกว่าผู้หญิง และมีค่ามาตรฐานที่สูงกว่าครับ<br /> <br /> สำหรับ<b>ค่ายูเรียไนโตรเจน</b>เกิดจากการย่อยสลายสารโปรตีนที่ตับเกิดเป็นสารแอมโมเนีย และเปลี่ยนจากแอมโมเนียเป็นยูเรีย เพื่อทำการขับออกที่ไตต่อไป ทั้งนี้ยูเรียเป็นของเสียที่ร่างกายสร้างขึ้นมาและ<b>ในยูเรียมีส่วนประกอบของไนโตรเจน</b>ครับ ในผู้ป่วยโรคไตที่มีปัญหาการขับของเสียออกทางไตจะมีการคั่งของยูเรียไนโตรเจนนี้ในเลือดทำให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติ บางครั้งอาจหมดสติหรือเสียชีวิตได้<br /> <br /> โดยทั่วไปค่าครีอะตีนีนจะมีค่าไม่เกิน 1-1.2 และค่ายูเรียมีค่าไม่เกิน 20 ทั้งนี้ห้องปฏิบัติการแต่ละแห่งอาจมีค่ามาตรฐานของแลปแตกต่างกันได้เล็กน้อย เมื่อ<b>ทำการตรวจที่ไหนจึงควรเทียบกับค่ามาตรฐานของที่นั้น</b>เป็นสำคัญครับ<br /> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgKRh7hFBbKMJY1Dn7yvR-7KsvRXArh9mWx4nEivdnR9g2G6FVUhRIxwgCNV3dW9gqKKtTRigtasbaW1u-5NtNcqRd8NJEg_xCn_uqGzopN4MPP5a-G1GnMYxIzEntpgto68XHfJOfrLrM/s1600/two-kidneys-connected-to-arterys.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="676" data-original-width="1000" height="432" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgKRh7hFBbKMJY1Dn7yvR-7KsvRXArh9mWx4nEivdnR9g2G6FVUhRIxwgCNV3dW9gqKKtTRigtasbaW1u-5NtNcqRd8NJEg_xCn_uqGzopN4MPP5a-G1GnMYxIzEntpgto68XHfJOfrLrM/s640/two-kidneys-connected-to-arterys.jpg" width="640" /></a></div> <div style="text-align: center;"> ภาพไตสองข้างจาก <a href="https://www.wisegeek.com/what-is-nephrotoxicity.htm">https://www.wisegeek.com/what-is-nephrotoxicity.htm</a></div> <br /> หากตรวจและพิจารณาค่าการทำงานของไตจากค่าครีอะตีนีนและค่ายูเรียไนโตรเจนเป็นสำคัญบ่อยครั้งจะพบผู้ที่คัดกรองมีความผิดปกติค่อนข้างช้า คือการทำงานของไตลดลงมากแล้วค่อยพบความผิดปกติของค่าดังกล่าว สำหรับการเฝ้าระวังโรคไตที่มีประสิทธิภาพอีกตัวหนึ่งที่ควรพูดถึงคือ <b><span style="color: blue;">Estimated Glomerular Filtration Rate (eGFR)</span></b> ซึ่งได้จากการคำนวณ และ <span style="color: blue;"><b>Creatinine Clearance (CrCl) </b></span><br /> <br /> <b><span style="color: blue;">eGFR</span></b> คือค่าอัตราการกรองของไตที่ได้จากการคำนวณค่าครีอะตีนีนด้วยสมการสามารถบอกประสิทธิภาพการทำงานของไตได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ตรวจพบผู้ป่วยโรคไตในระยะแรกเริ่มได้ สมการประกอบด้วย<b>ค่าครีอะตีนีน อายุ เพศ สัญชาติ และน้ำหนัก</b><br /> <br /> <span style="background-color: #fff2e6; font-family: "ms sans serif" , "thai fix font" , "angsanaupc";">สมการMDRD คำนวณ eGFR (ml/min/1.73 m2) = 186 x (Scr : mg/dl)-1.154 x (age)-0.203 x (0.742 if female) x (1.210 if African American)</span><br /> <br /> <b><span style="color: blue;">สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย</span></b>แนะนำให้แบ่ง<b><span style="color: blue;">ระยะของโรคไต</span></b>เป็นห้าระดับดังนี้<br /> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjL6YD-Hvoj-3Eq-0TWb3Iy3leiZPtgqKyo6VIlpclJrEGDwR24eW9rWM0X2DZ9pSwzsEaaNnlF6xlv9p7bIE2UE1c9DsAfPi9AoNUlejAVQQWJcpTWcrJFHHQ291xDJBf_dTNzAI1FtuM/s1600/Untitled.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="438" data-original-width="798" height="350" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjL6YD-Hvoj-3Eq-0TWb3Iy3leiZPtgqKyo6VIlpclJrEGDwR24eW9rWM0X2DZ9pSwzsEaaNnlF6xlv9p7bIE2UE1c9DsAfPi9AoNUlejAVQQWJcpTWcrJFHHQ291xDJBf_dTNzAI1FtuM/s640/Untitled.png" width="640" /></a></div> <div style="text-align: center;"> ภาพระยะของโรคไตจาก <a href="http://www.nephrothai.org/images/10-11-2016/Final_%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AD_CKD_2015.pdf">http://www.nephrothai.org/images/10-11-2016/Final_%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AD_CKD_2015.pdf</a></div> <br /> สำหรับการตรวจสุขภาพประจำปีและการตรวจตามปัจจัยเสี่ยงในการทำงาน <b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>แนะนำว่าควรแบ่งการทำงานของไตออกเป็นสามกลุ่มได้แก่<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">1.การทำงานของไตปกติ</span></b> eGFR >= 90<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">2.การทำงานของไตลดลงเล็กน้อย</span></b> eGFR 60-89<br /> ควรให้แพทย์อาชีวเวชศาสตร์หรือแพทย์ทั่วไปซักประวัติและตรวจร่างกายหาอาการและอาการแสดงของโรคไต หากพบความผิดปกติควรส่งพบแพทย์อายุรกรรมโรคไต และค้นหาสาเหตุของโรคไตที่อาจเกิดจากการทำงาน เช่นการสัมผัสสารเคมีต่างๆ<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">3.การทำงานของไตลดลงปานกลางถึงมาก</span></b> eGFR <60<br /> ควรส่งพบแพทย์อายุรกรรมโรคไต ตรวจติดตามอาการและรับการรักษาทันที และค้นหาสาเหตุของโรคไตที่อาจเกิดจากการทำงาน เช่นการสัมผัสสารเคมีต่างๆ<br /> <br /> <b><span style="color: blue;">สารเคมีที่อาจเป็นพิษต่อไต</span></b> ได้แก่ <b><span style="color: red;">ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม โทลูอีน ซิลิก้า โครเมียม พาราควอท และคลอโรฟอร์ม</span></b> เป็นต้น<br /> อ่านรายละเอียดโรคไตจากการทำงานสัมผัสสารเคมีเพิ่มเติมได้ที่ <a href="https://www.haz-map.com/renal.htm">https://www.haz-map.com/renal.htm</a><br /> <br /> <b><span style="color: blue;">CrCl </span></b>เป็นอัตราการขับครีอะตีนีนออกทางไต สามารถหาได้จากการเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง วึ่งค่อนข้างยุ่งยาก แต่สามารถคำนวณได้จากสมการเช่นเดียวกับ eGFR และใช้แทนกันได้ แพทย์หลายท่านนิยมสมการนี้เพราะคำนวณง่ายกว่าแต่ความแม่นยำน้อยกว่าสมการ eGFR เล็กน้อย และมักคำนวณได้ค่าที่สูงกว่า eGFR จริงประมาณ 10-20%<br /> <br /> <span style="background-color: #fff2e6;">สมการ Cockcroft-Gault คำนวณ </span><span style="background-color: #fff2e6; font-family: "ms sans serif" , "thai fix font" , "angsanaupc";">Creatinine Clearance (ml/min) = (140 – age) x (Wt in kg) x (0.85 if female) / (72 x Scr : mg/dl)</span><br /> <br /> โดยสรุป<b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>แนะนำว่าควร<b>เฝ้าระวังโรคไตจากการตรวจสุขภาพประจำปี</b>และ<b>ตรวจตามปัจจัยเสี่ยง</b>ด้วย<b><span style="color: blue;">การตรวจครีอะตีนีนและคำนวณหาค่า eGFR</span></b> ซึ่งทางสถานประกอบการสามารถระบุในสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างให้ผู้ให้บริการตรวจสุขภาพคำนวณสมการ MDRD หาค่านี้ให้พนักงานทุกราย และ<b>แบ่งกลุ่มตามที่แนะนำเพื่อการดำเนินการกับผลตรวจสุขภาพที่ผิดปกติต่อไป</b>ได้เลยครับ

ตรวจสุขภาพพนักงาน, โรคจากการทำงาน

พารามิเตอร์การตรวจสุขภาพน่ารู้ 1 การทำงานของไต

สวัสดีครับ วันนี้ หมอบี จะมาแนะนำรายการตรวจสุขภาพประจำปียอดนิยมที่เชื่อว่าเกือบทุกคนจะเคยตรวจรายการนี้มาแล้ว ได้แก่ การตรวจการทำงานของไต ครั...

STEL Ceiling and Peak ขีดจำกัดความเข้มข้นสารเคมีอันตรายในกฎหมายใหม่

วันนี้<b><span style="color: blue;">หมอบี</span></b>จะมาแนะนำเกี่ยวกับ<b><span style="color: blue;">ค่ามาตรฐานการสัมผัสสารเคมี</span></b>ที่ประกาศมาเป็นกฎหมายฉบับใหม่ ที่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านวิพากย์วิจารณ์กันอย่างเข้มข้น บ้างก็ว่า <b>ลอกตารางจากต่างประเทศมาไม่ครบ</b> บ้างก็ว่า<b>ลอกมาผิดเนื้อหาสลับคอลัมน์</b> บ้างก็ว่า <b>ค่า STEL ต้องไม่สูงกว่าค่า Ceiling</b> นะ ใครผิดหรือถูกอย่างไร เราก็มาลองช่วยกันพิจารณาดูกันครับ<br /> <br /> ก่อนจะไปในรายละเอียด อยากให้เข้าใจก่อนว่า<b><span style="color: blue;">แพทย์อาชีวเวชศาสตร์เกี่ยวข้องอย่างไร</span></b>กับการใช้ค่ามาตรฐานนี้ แน่นอนครับว่าการกำหนดให้การสัมผัสสารเคมีในระหว่างการทำงานไม่เกินเท่านั้นเท่านี้เนื่องจาก<b>ต้องการให้พนักงานเกิดความปลอดภัย</b> ถ้าค่าการสัมผัสไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานและ<span style="color: blue;"><b>พนักงานสุขภาพแข็งแรงนั่นคือดีที่สุดแล้ว</b></span><br /> <br /> <span style="color: blue;"><b>แต่เมื่อพนักงานเกิดอาการผิดปกติขึ้นในระหว่างการทำงานกับสารเคมีแล้ว</b></span> อาจไม่ถึงกับต้องเป็นโรคแต่หากเพียง <b>ค่าการทำงานของตับหรือไตขึ้นสูงกว่าปกติ</b> <b>ผลการตรวจสมรรถภาพปอดลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า</b> หรือมี<b>ภาวะสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป</b>อื่น ย่อมต้องพิจารณาว่า<b>เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงานหรือไม่<span style="color: blue;"> </span></b>หากระบุได้ว่าเกิดเนื่องจากการสัมผัสสารเคมีในระหว่างการทำงานก็จะ<b style="color: blue;">นำไปสู่กระบวนการทบทวนและควบคุมความเสี่ยงต่อไป </b><br /> <br /> ทั้งนี้ผลการตรวจสมรรถภาพปอดที่จะนำมาเทียบกันได้นั้นต้องตรวจอย่างมีมาตรฐานนะครับ แนะนำให้อ่านจาก <span style="color: magenta; font-weight: bold;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/12/spirometry-3-time.html">การเป่าปอดสามครั้งอย่างมีคุณภาพ</a> </span><span style="font-weight: bold;">นะครับ</span><br /> <br /> <div style="text-align: center;"> <b><span style="color: red;">ทั้งหมดก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการผิดปกติที่รุนแรงขึ้นและไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซากนั่นเองครับ</span></b></div> <br /> การดำเนินการในลักษณะนี้จึงจะเรียกว่า<b><span style="color: blue;">การเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน</span></b>ครับ ซึ่งจะต้องมี<b>การวิเคราะห์ผลการตรวจสุขภาพเพื่อนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์</b> อ่านรายละเอียดได้ใน <b><span style="color: magenta;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_22.html">วิเคราะห์และแปลผลตรวจสุขภาพ</a></span></b> และ <b><span style="color: magenta;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_21.html">เลือกโครงการสุขภาพให้พนักงาน</a></span></b> ครับ<br /> <br /> ทั้งนี้การจะระบุว่าอาการผิดปกติครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการสัมผัสสารเคมีในระหว่างการทำงาน <span style="color: blue;"><b>จะต้องพิจารณาผลการตรวจวัดสารเคมีในสภาพแวดล้อมการทำงาน </b></span>เพื่อประเมินระดับการสัมผัสสารเคมีที่สงสัยว่าทำให้เกิดโรค ดังนั้น<span style="color: blue;"><b>แพทย์อาชีวเวชศาสตร์</b></span>จึงควรมีความรู้เกี่ยวกับ<b>ค่ามาตรฐานและการแปลผลการตรวจวัดสารเคมีในสภาพแวดล้อมการทำงาน</b>พอสมควรแต่คงไม่ถึงขนาดลงมือตรวจวัดเองได้อย่างเชี่ยวชาญเหมือน<b>นักสุขศาสตร์อุตสาหกรรม</b>นะครับ <b><span style="color: blue;">เราทำงานร่วมกันแบบสหสาขาวิชาชีพ</span></b><br /> <br /> เริ่มจาก<b>การประกาศค่ามาตรฐานของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน</b>ที่เป็นจำเลยสังคมในปัจจุบันกันก่อนละกันครับ<br /> <br /> <a href="http://www.oshthai.org/images/PDF/2017/11/917-1.pdf">ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ขีดจำกัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๐</a><br /> <span style="background-color: #61efe6; text-align: center;"><span style="color: #0a1f19; font-family: "arial" , "helvetica" , sans-serif; font-size: medium;"><b><br /></b></span></span> <br /> <div style="text-align: left;"> ประเด็นที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ <b><span style="color: blue;">ขีดจํากัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายสําหรับการสัมผัสในระยะเวลาสั้นๆ</span></b> <b>คอลัมน์ที่สองจากทางขวามือ</b>นั่นละครับ เป็นคำถามจากหลายๆท่านว่า <b>ทำไมจึงมีค่าอะไรบางอย่างกำหนดเพิ่มทั้งที่มี Ceiling (ค่าขีดจํากัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายสูงสุดไม่ว่าเวลาใดๆในระหว่างทํางาน) อยู่ในคอลัมน์ขวาสุดแล้วแถมยังมีค่าสูงกว่าค่า Ceiling ด้วยนะเธอ</b> แถมให้ทำงานได้ <b><span style="color: blue;">15 นาทีบ้าง 30 นาทีบ้าง</span></b> จน <b><span style="color: blue;">หลายคนอาจเข้าใจไปว่ามันคือค่า STEL</span></b> ทำให้เกิดประเด็นร้อนว่า <b>ค่าเฉลี่ย STEL ต้องไม่สูงกว่าค่า Ceiling</b> นะคร้าบ<br /> <br /> ว่าแต่เคยสงสัยมั้ยครับว่า <b>ในอดีตจนถึงปัจจุบัน <span style="color: blue;">ACGIH</span> เคยกำหนดให้</b><br /> <br /> <div style="text-align: center;"> <b><span style="color: blue;">สารเคมีชนิดใดบ้างที่มีทั้งสองค่า คือค่า STEL และ Ceiling พร้อมๆกัน?</span></b></div> </div> <div style="text-align: left;"> <div style="text-align: center;"> <br /></div> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjkrnHOwuZjpiyTYGRU41N_wi7ytGIZZjcOU_enQHcT4zz9cGgp-ppgVcEBZ1EOLl3fjWcH4K1mpjo7017ngSpN8OVVVnOv0oIx12RjCy-OUEWiNcX_FmP2HdbgwEACalpuC6eRneEt6y4/s1600/STEL.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="570" data-original-width="793" height="460" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjkrnHOwuZjpiyTYGRU41N_wi7ytGIZZjcOU_enQHcT4zz9cGgp-ppgVcEBZ1EOLl3fjWcH4K1mpjo7017ngSpN8OVVVnOv0oIx12RjCy-OUEWiNcX_FmP2HdbgwEACalpuC6eRneEt6y4/s640/STEL.png" width="640" /></a></div> <br /></div> <div style="text-align: left;"> หลายท่านอาจมองว่า <b><span style="color: red;">นี่ละคือค่า STEL (จริงหรือ)</span></b> แต่ว่านะครับคำถามต่อมาคือ <b>ACGIH กำหนดค่า STEL ของสารอะคริโลไนไตรล์ไว้เท่าไหร่?</b> ลองไปค้นเอกสารอ่านดูนะครับ ซึ่งจะเห็นว่า <b>หากสารเคมีชนิดใดไม่ได้กำหนดค่า STEL ไว้จะแนะนำให้ใช้<span style="color: blue;">ค่า Excursion limits</span> แทน  </b>นอกจากนี้หากมองในอีกมุมหนึ่งย้อนกลับมาจะพบว่า<br /> <br /> <div style="text-align: center;"> <b><span style="color: blue;">ทำไมสารเคมีหลายชนิดจึงไม่มีค่านี้กำหนดในคอลัมน์ทั้งที่มีค่า STEL จาก ACGIH ให้คัดลอกได้?</span></b></div> </div> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <div style="text-align: left;"> ต่อมาทางผู้ออกกฎหมายฉบับดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงว่า</div> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <div style="text-align: left;"> <div style="text-align: center;"> <a href="http://www.oshthai.org/index.php?option=com_content&view=article&id=917:-m-m-s&catid=1:news-thai"><b>ค่ามาตรฐานที่กำหนดนี้ส่วนใหญ่อ้างอิงมาจากค่ามาตรฐานของ OSHA มิใช่ ACGIH แต่ประการใด </b></a></div> </div> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <div style="text-align: left;"> ถึงจุดนี้หลายท่านก็จะถึงบางอ้อ และกลับไปนั่งอ่าน <a href="https://www.osha.gov/pls/oshaweb/owadisp.show_document?p_id=9993&p_table=STANDARDS">OSHA 1910.1000 Table Z-2</a> แม้ว่าจะยังคงความสงสัยของค่ามาตรฐานที่แตกต่างของสารเคมีบางตัว แต่ก็เมื่ออ่านรายละเอียดใน<b><span style="color: blue;">คำอธิบายของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน</span></b>ก็พอเข้าใจเจตนารมย์ของกฎหมายได้ดีขึ้น <b>(เฉพาะสำหรับสารเคมีที่มีตัวเลขครบทั้งสามคอลัมน์ทางขวาและอยู่ในตาราง Z-2 นะครับ)</b><br /> <br /> <b>แถมอ่านให้ละเอียด</b>จะพบว่า<b><span style="color: blue;">คำอธิบาย/ชี้แจงของกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน</span></b>จะคล้ายกับ <a href="https://www.osha.gov/pls/oshaweb/owadisp.show_document?p_table=STANDARDS&p_id=9991">OSHA 1910.1000(b)(3)</a> อย่างมากกกก (เสียงสูง)<br /> <br /> ภาพรวมคือ<b><span style="color: blue;">เป็นค่าระดับการสัมผัสสูงสุด (Peak) ที่ผ่อนผันให้</span></b> ยอมรับให้สัมผัสได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แม้จะเกินกว่าค่า Ceiling ในคอลัมน์ขวาสุดแล้วก็ตาม มิใช่ค่าเฉลี่ย STEL แต่ประการใด</div> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <div style="text-align: left;"> ทีนี้คำถามต่อมาก็คือ<br /> <br /> <div style="text-align: center;"> <b><span style="color: blue;">แล้วค่าที่ไม่มีใน Z-2 อย่างสาร Acrylonitrile ล่ะ มันคือ STEL หรือเปล่า? </span></b></div> <br /> ทำไมจึงรวมเอาค่ามาตรฐานสองอย่างมาอยู่ในตารางเดียวกัน (ค่ามาตรฐาน STEL ของ ACGIH และค่ามาตรฐานของ OSHA)?</div> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <div style="text-align: left;"> หากค้นข้อมูลเพิ่มเติมจาก OSHA 1910.1045(c)(1)(ii) จะอธิบายส่วนที่น่าจะเกี่ยวข้องกับตารางนี้ไว้ว่า</div> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <span style="color: blue;">Ceiling limit. The employer shall assure that no employee is exposed to an airborne concentration of acrylonitrile in excess of ten (10) ppm as averaged over any fifteen (15)-minute period during the work day.</span><br /> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <div style="text-align: left;"> จาก<b><span style="color: blue;">ค่าเฉลี่ย STEL</span></b> ขอย้ำว่า ค่าเฉลี่ย โดยนิยามนั้นคือ <b><span style="color: blue;">15 minute TWA</span></b> แสดงว่า<b>ความเข้มข้นสารเคมีในบางเวลาอาจมีพีคเกินค่า STEL ได้บ้างถ้าเฉลี่ยระหว่าง 15 นาทีแล้วมันไม่เกินก็ยังโอเค</b> ในขณะที่ถ้าเป็น<b><span style="color: blue;">ค่า Ceiling </span></b>(คอลัมน์ขวาสุดในกฎหมาย) แล้ววัดระดับสารเคมีแล้ว<b>เกินมาพีคเดียว เสี้ยววินาทีเดียว ก็ถือว่าเกิน</b> ส่วน<b><span style="color: blue;">ค่า Ceiling limit ของ Acrylonitrile</span></b> ดังที่เห็นในคำอธิบายของ OSHA ว่าแม้จะใช้คำว่า Ceiling แต่กลับมีระยะเวลาพ่วงเข้ามาด้วย <b>แถมใช้คำว่า </b><span style="color: blue;"><b>as averaged</b> </span><b>จนดูคล้ายๆกับ STEL มากกว่า</b> (เฉพาะกรณีสารเคมีที่ไม่มีตัวเลขในคอลัมน์ขวาสุดในกฎหมาย และไม่อยู่ในตาราง Z-2 นะครับ)</div> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <div style="text-align: left;"> <div style="text-align: center;"> <b><span style="color: blue;">ข้อแตกต่างของ Ceiling limit (OSHA) กับ STEL (ACGIH)</span></b> คือ </div> </div> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <div style="text-align: left;"> ถ้าเป็น<b>ค่าเฉลี่ย STEL </b>ยอมให้ทำงานที่ ค่าเฉลี่ยการสัมผัสสารเคมีไม่เกินเกณฑ์ ได้<b>ครั้งละไม่เกิน 15 นาที <span style="color: blue;">วันละตั้งสี่ครั้ง</span></b><span style="color: blue;"> </span>แต่ละครั้งต้อง<b><span style="color: blue;">ห่างกันอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง</span></b> นับรวมแล้วก็วันละ 60 นาที แต่<b>ค่า Ceiling limit ของ OSHA นี้จะแตกต่างออกไป </b><br /> <b><br /></b> <br /> <div style="text-align: center;"> <b>ทั้งนี้ถ้าเป็น<span style="color: blue;">สารที่ไม่มี STEL</span> ใน ACGIH จะใช้<span style="color: blue;">ค่า Excursion limits</span> แทนนะครับ</b></div> </div> <div style="text-align: left;"> <br /></div> <div style="text-align: left;"> เมื่อเข้าใจที่มาที่ไปแล้ว ไปต่ออีกนิดที่<span style="color: blue;"><b>วิธีการเก็บตัวอย่าง</b></span> เมื่อมีผู้ประสบเหตุจากสารเคมีมีอาการผิดปกติ และมีผลตรวจวัดระดับสารเคมีที่สัมผัสมาด้วย อย่างหนึ่งที่น่าพิจารณาคือ<b><span style="color: blue;">เก็บตัวอย่างมาแบบไหน </span></b><br /> <br /> ถ้าเป็น <b><span style="color: blue;">8 hour TWA</span></b> คง<b>แล้วแต่<span style="color: blue;">นักสุขศาสตร์อุตสาหกรรม</span></b>จะพิจารณาเก็บแบบใดแบบหนึ่งข้างล่างนี้<br /> <br /> <b>1.เก็บตัวอย่างเดียวตลอดระยะเวลาการทำงาน (Simple Sample for Full Period)</b><br /> <b>2.เก็บหลายตัวอย่างตลอดระยะเวลาทำงาน (Consecutive Sample for Full Period) </b>หรือเว้นเวลาพักนั่นเอง<br /> <b>3.เก็บหลายตัวอย่างโดยแบ่งเวลาเก็บออกเป็นช่วง (Consecutive Sample for Partial Period)</b> ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ แต่<b>ถ้าไม่สามารถแสดงได้ว่าเก็บถึง <span style="color: blue;">70% ของระยะเวลาการทำงาน</span>ความน่าเชื่อถือของผลการตรวจจะลดลง</b><br /> <br /> ถ้า<b><span style="color: blue;">เก็บตัวอย่างแบบบูรณาการ (Integrated Sample)</span></b> ก็เหมาะสำหรับแปลผลด้วย<b>ค่า 15 minute TWA อย่าง STEL</b> ซึ่งต้อง<b>เก็บอย่างน้อย 15 นาทีในช่วงเวลาที่ที่น่าจะมีการสัมผัสสารเคมีมากที่สุด</b><br /> <br /> แต่หากจะแปลผลด้วยค่าสูงสุด อย่าง <b>Ceiling Max หรือ Peak</b> ควรจะใช้<b><span style="color: blue;">การเก็บแบบทันที (Instantaneous Sample)</span></b> หรือ<span style="color: blue; font-weight: bold;">แบบใช้เวลาเก็บสั้นๆ (Grab Sample) </span>โดยอาจใช้<span style="color: blue; font-weight: bold;"> เครื่องตรวจวัดสารเคมีแบบ Direct Reading</span><br /> <br /> อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ<b>เทคนิคการตรวจวัดสภาพแวดล้อมการทำงาน</b>เพิ่มเติมได้ที่<br /> <a href="https://www.safety-stou.com/UserFiles/File/54113%20unit%208.doc">1.หน่วยที่ 8  การเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่างสารเคมี</a><br /> <a href="http://www.3ndsafety.com/files/3814/2105/5803/industrial_hygiene.pdf">2.การตรวจวัดทางสุขศาสตร์อุตสาหกรรม</a><br /> <br /> จะเห็นว่าที่มาของ <b>ค่าขีดจํากัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายสําหรับการสัมผัสในระยะเวลาสั้นๆ ของกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน</b> นอกจากจะมีที่มาจาก <b><span style="color: blue;">Acceptable maximum peak above the acceptable ceiling concentration for an 8-hr shift (ค่าสูงสุด)</span></b> ในตาราง Z-2 ของ OSHA ซึ่งเป็นค่าสูงสุดแล้ว บางส่วนยังมีน่าจะมีที่มาจาก<b><span style="color: blue;">ค่า Ceiling limit เฉพาะสารเคมีของ OSHA</span></b> ซึ่งเป็นค่า as averaged อีกด้วย ในช่องนี้กฎหมายก็ไม่เขียนให้ชัดเจนว่าเป็น<b>ค่าสูงสุด (Peak)</b> หรือ<b>ค่าเฉลี่ย (as averaged)</b> <b><span style="color: blue;">เลยทำให้ยิ่งงงไปกันใหญ่ว่าจะเก็บตัวอย่างแบบไหน แปลผลแบบไหนดี</span></b><br /> <br /> หรือจะเป็น?<br /> <br /> <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWWFoAfvvieI_lBYm_0vA3HSQ3fVUsOwRwzUFr_sIT66HtU5qiGbvdn5lzJQbeHeR5diazwSp7t26EItWapGn1rxX6owaLo_pSDfIU5WqDbk4J4_iCGO9o2FhsVNgsMFcldnqU0Asfhi0/s1600/1724997-Harry-S-Truman-Quote-If-you-can-t-convince-them-confuse-them.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="900" data-original-width="1600" height="360" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWWFoAfvvieI_lBYm_0vA3HSQ3fVUsOwRwzUFr_sIT66HtU5qiGbvdn5lzJQbeHeR5diazwSp7t26EItWapGn1rxX6owaLo_pSDfIU5WqDbk4J4_iCGO9o2FhsVNgsMFcldnqU0Asfhi0/s640/1724997-Harry-S-Truman-Quote-If-you-can-t-convince-them-confuse-them.jpg" width="640" /></a></div> <div style="text-align: center;"> ภาพจาก https://quotefancy.com</div> <div style="text-align: center;"> <br /></div> <b>ล้อเล่นนะครับเห็นอ่านมากันจนสุดทาง</b> หรือ<span style="color: blue;"><b>กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจะต้องออกโรงชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง?</b></span><br /> <br /></div> <div style="text-align: left;"> สำหรับ<b><span style="color: blue;">หมอบี </span></b>เมื่อมีค่าผลตรวจวัดสิ่งแวดล้อมมาค่าหนึ่งคงต้องพิจารณากันให้ดีว่า<b>เก็บตัวอย่างมาแบบไหน</b> <b>ผลกระทบทางสุขภาพเป็นแบบเฉียบพลันหรือแบบเรื้อรัง</b> <b><span style="color: blue;">ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ค่าอะไรแปลผล</span></b> ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่า<b><span style="color: blue;">ความไวของแต่ละคนไม่เท่ากัน</span></b>ครับ <b>คนเป็นโรคหอบหืด คนที่มีค่าการทำงานของตับหรือไตผิดปกติ ก็ยังมีโอกาสเกิดความผิดปกติจากสารเคมีได้ง่ายกว่าปกติแม้ว่าจะสัมผัสในระดับที่ไม่เกินค่ามาตรฐานก็ตาม หรือพนักงานหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ก็เป็นอันตรายได้มากกว่าคนทั่วไป</b>ครับ<br /> <br /> เกี่ยวกับความไวต่อการสัมผัสสารเคมีของแต่ละคนไม่เท่ากันแนะนำให้อ่านเรื่อง <b><span style="color: magenta;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/09/vulnerable.html">VULNERABLE เพราะสุขภาพแต่ละคนไม่เท่ากัน</a></span></b> และ <b><span style="color: magenta;"><a href="http://www.doctor-bee.net/2015/06/blog-post_93.html">การดูแลพนักงานหญิงที่ตั้งครรภ์</a></span></b> เพิ่มเติมครับ<br /> <br /> สุดท้ายนี้อยากฝากถึง<b><span style="color: blue;">กองทุนเงินทดแทน</span></b>สักคำว่า <b><span style="color: blue;">"กฎหมายก็ปรับแล้ว จะได้เวลาปรับค่ามาตรฐานสารเคมีในเกณฑ์ในการวินิจฉัยโรคจากการทำงาน และรายละเอียดการวินิจฉัยโรคจากการทำงานของประเทศไทยให้เกิดความชัดเจนและ UP TO DATE แล้วหรือยัง?"</span></b><br /> <br /> สำหรับวันนี้สวัสดีครับ</div> <a href="https://www.blogger.com/null" name="1910.1045(c)(2)" style="background-color: white; font-family: "Helvetica Neue", Helvetica, Arial, sans-serif; font-size: 14px;"></a>

กิจกรรมของหมอบี, คุยสัพเพเหระ, โรคจากการทำงาน, Featured

STEL Ceiling and Peak ขีดจำกัดความเข้มข้นสารเคมีอันตรายในกฎหมายใหม่

วันนี้ หมอบี จะมาแนะนำเกี่ยวกับ ค่ามาตรฐานการสัมผัสสารเคมี ที่ประกาศมาเป็นกฎหมายฉบับใหม่ ที่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านวิพากย์วิจารณ์กันอย่างเข้มข้...