Fitness ของพนักงานขับรถ

การขับรถเป็นอีกประเด็นที่หมอบีคิดว่ามีความสำคัญมากครับที่จะมีโครงการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยอย่างจริงจัง การขับรถโดยไม่มีความพร้อมสามารถทำให้เกิดขึ้นอุบัติเหตุที่รุนแรงอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตของพนักงานขับรถ ผู้โดยสาร เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนในชุมชนที่สถานประกอบการตั้งอยู่ นายจ้างหรือสถานประกอบการอาจเกิดความเสียหายทางทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลจากอุบัติเหตุจากการขับรถของพนักงาน 


ก่อนจะอ่านรายละเอียดกันต่อแนะนำให้ไปกดไลค์ที่แฟนเพจ DoctorBee กันก่อนนะครับจะได้รู้จักกันครับ ^^

บ่อยครั้งอุบัติเหตุก็เป็นเหตุสุดวิสัย แต่หลายๆครั้งก็เป็นเรื่องที่อาจป้องกันได้ครับ

ภาพอุบัติเหตุจากการขับรถโฟล์คลิฟท์ จาก www.caraccidentpics.com

พนักงานที่ต้องขับรถในระหว่างการทำงานไม่ว่าจะเป็น พนักงานขับรถขนส่งสินค้า พนักงานขับรถรับส่งพนักงาน พนักงานขับรถโฟล์คลิฟท์ หรือแม้แต่พนักงานทดลองขับรถยนต์ประกอบใหม่ในโรงงานประกอบรถยนต์ควรมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีความสามารถพร้อมที่จะขับรถได้เป็นอย่างมั้นใจว่าจะปลอดภัย 

ตามกฎหมายบ้านเราจะแบ่งประเภทใบขับขี่ออกเป็น 4 กลุ่ม ที่จะมีการตรวจพิเศษจะเป็นกลุ่มที่ต้องขับรถที่มีความเสี่ยงสูงเช่น ขับรถพ่วง หรือรถบรรทุกสารเคมีอันตราย แต่การขับรถทั่วๆไปก็มีความเสี่ยงไม่แพ้กันครับ การที่จะให้ตรวจแต่สายตา การมองเห็นระยะไกลคร่าวๆ และสรุปว่าขับรถได้ออกใบขับขี่เป็นสาเหตุให้โรคหลายอย่างหลุดออกมาทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนักต่อนักแล้วครับ


ภาพอุบัติเหตุรถโดยสารที่ประเทศจีน จาก www.tnnthailand.com

โรคลมชักที่จะชักแล้วสลบไปเมื่อไหร่ไม่รู้ หรือโรคหัวใจที่ไม่รู้ว่าจะกำเริบเมื่อไหร่ควรได้รับการประเมินโดยแพทย์อย่างละเอียด โรคเบาหวานถ้ามีอาการลงเส้นประสาทที่เท้าก็อาจทำให้มีอาการชาเหยียบเบรก เหยียบคันเร่งแล้วไม่รู้สึกจนทำให้พลาดได้ สายตาผิดปกติ กะระยะใกล้ไกลได้ไม่ดีก็มีผลทำให้เกิดการเฉี่ยวหรือชนได้ นอกจากนี้โรคจิตเวชต่างๆก็น่าเป็นห่วงครับว่าถ้าอาการกำเริบขณะขับรถจะเกิดความเสียหายได้ขนาดไหน เห็นด้วยมั้ยล่ะครับว่าตรวจสุขภาพแบบทั่วๆไปที่กฎหมายกำหนด ไปตรวจที่ขนส่งยังไงก็ผ่านตลอดไม่พอหรอกครับที่จะคัดกรองโรคเหล่านี้ได้
การทำงานของสมองผู้ป่วยโรคลมชัก จาก www.webmd.com

หมอบีแนะนำนะครับว่า

พนักงานที่ต้องขับรถในการทำงานทุกคน ควรได้รับการตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความสมบูรณ์ของร่างกาย (Fitness) ที่เข้มข้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด 


  • สถานประกอบการคงต้องวางระบบคัดกรองพนักงานที่มีปัญหาสุขภาพที่จะกระทบกับงานขับรถขึ้นเป็นนโยบายภายในสถานประกอบการขึ้นมาเองครับ น่าจะมีทั้งแบบสอบถามประวัติสุขภาพพนักงาน และรายการตรวจสุขภาพของพนักงาน ต้องกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำของผลการตรวจสุขภาพว่าแบบไหนผ่านหรือไม่ผ่านให้ชัดเจนครับ จะตรวจอะไร ซักประวัติอะไรบ้าง
  • ควรกำหนดโดยแพทย์วุฒิบัตรเฉพาะทางอาชีวเวชศาสตร์ และต้องมีเกณฑ์อ้างอิงที่เป็นสากล สมเหตุผล และเข้ากับบริบทของสถานประกอบการนะครับ อันนี้เราเรียกว่าประเมินความสมบูรณ์พร้อมในการทำงาน (Fit for work)หรือความสมบูรณ์พร้อมในการขับรถ (Fit for drive) หรือบางตำราอาจเรียกว่า Fitness for work ก็คืออันเดียวกันครับ ไม่ยากใช่มั้ยล่ะครับเท่านี้เราก็สามารถที่จะยกระดับความปลอดภัยในการทำงานให้กับพนักงานภายในสถานประกอบการของเราได้ในอีกระดับหนึ่งครับ
อีกประเด็นหนึ่งที่ควรรู้ไว้นะครับ คือ การนั่งขับรถต่อเนื่องนานๆจะทำให้เกิดอาการปวดหลังจากการทำงานขับรถ และมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกายได้ พนักงานขับรถทุกท่านควรมีเวลาพักให้มีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นระยะนะครับ


ภาพการยืดเหยียดกล้ามเนื้อพนักงานขับรถบรรทุก จาก thehealthytrucker.net/fit

เชิญทำความรู้จักกับหมอบีได้ที่นี่ครับ รู้จักกับ"DOCTOR BEE"


หรือติดต่อหมอบีเชิญที่นี่เลยครับ ติดต่อ "DOCTOR BEE"
Share This Post :
Tags : ,

ติดตาม "หมอบี" ทาง Facebook

บทความใหม่ล่าสุด

[2][recent][recent][บทความใหม่ล่าสุด]

Social Media

Get update news from our social media.